สรุปสาระสำคัญกำหนดร่างเอกสาร (Terms of Reference : TOR) ประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e - bidding) จัดซื้อระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 1 งาน
ส่วนที่ 1 สรุปสาระสำคัญกำหนดร่างเอกสาร (Terms of Reference : TOR) ประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e - bidding) จัดซื้อระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 1 งาน
- ความเป็นมา
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีการใช้โปรแกรมระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) นับเป็นระยะเวลา 9 ปี บนพื้นฐานระบบเดิมที่ไม่สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 ขึ้นไปได้ ซึ่งมหาวิทยาลัยต้องบริหารงานและตัดสินใจโดยใช้ระบบสารสนเทศทันสมัยที่ฉับไว ถูกต้อง นักศึกษาใช้บริการผ่านระบบ e-Services ต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยฯ ด้านผู้ปกครองเข้าถึงสารสนเทศได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีความจำเป็นต้องจัดหาซอฟต์แวร์ระบบสาสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 ขึ้นไปได้ เพื่อทดแทนระบบปฏิบัติการ Windows เดิม จึงทำให้การบริการจัดการของมหาวิทยาลัยบรรลุเป้าหมายตามพันธกิจที่ตั้งไว้และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- วัตถุประสงค์
- เพื่อให้โปรแกรมระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 ขึ้นไป
- เพื่อให้การบริการจัดการของมหาวิทยาลัยบรรลุเป้าหมายตามพันธกิจ
- เพื่อพัฒนาระบบใหม่แบบ Web base ที่รองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลาย
- ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความสามารถตามกฎหมาย
3.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
3.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ
3.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ชั่วคราว เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศ ของกรมบัญชีกลาง
3.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย
3.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
3.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพขายพัสดุที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
3.8 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่ มหาวิทยาลัย ณ วันประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้
3.9 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาล ของผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น
3.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลาง
3.11 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลาง ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
3.12 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชี รายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
3.13 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาอาจจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
3.14 ผู้ยื่นเสนอราคาเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลและมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคา ในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,500,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ที่มหาวิทยาลัยเชื่อถือ
3.15 ผู้ยื่นเสนอราคาต้องมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบ ซึ่งเป็นผลงานที่แล้วเสร็จจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ในวงเงิน 4,500,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่แล้วเสร็จ ไม่เกิน 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นเอกสารเสนอราคา โดยแนบสำเนาหนังสือรับรองผลงานจากหน่วยงานมาพร้อมกับเอกสารประกวดราคา
- ขอบเขตของงาน
ระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ
- 5. ระยะเวลาดำเนินงาน 365 วัน
- 6. วงเงินงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน / ราคากลาง
งบประมาณแผ่นดิน 2561 เป็นเงินทั้งสิ้น 9,000,000 บาท (เก้าล้านบาทถ้วน)
- 8. สถานที่ติดต่อ
งานพัสดุ กองคลัง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เลขที่ 39/1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
โทรศัพท์ 0-2942-5800 ต่อ 1130 - 1132
โทรสาร 0-2513-9735
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งหลอด LED tube (120 cm.) ขนาดไม่เกิน 18 วัตต์ จำนวน 12,400 หลอด และหลอด LED street light ขนาดไม่เกิน 28 วัตต์ จำนวน 90 หลอด
- หลอด LEDTube ไม่เกิน 18 วัตต์ ทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์T8 ขนาด 36 วัตต์ และหลอดฟูออเรสเซนต์T5 ขนาด 28 วัตต์ มีคุณลักษณะดังนี้
- สามารถใช้กับแรงดันไฟกระแสสลับ 220-240โวลต์ความถี่ 50 เฮิรตซ์
- กำลังไฟฟ้ารวมไม่เกิน 18 วัตต์ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
- หลอดไฟแอลอีดีมีขั้วหลอดเป็นชนิด G13และมีความยาวหลอดไฟ 1200 มิลลิเมตร
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่าตัวประกอบกำลังไฟฟ้า (Power Factor) ไม่น้อยกว่า 0.90 โดยดูจากผลการทดสอบ LM79
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่าความผิดเพี้ยนฮาร์มอนิกทั้งหมดของกระแส (Total Harmonic Current Distortion THDi)ด้านเข้าต้องไม่เกินร้อยละ15โดยดูจากผลการทดสอบ LM79
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่าฟลักซ์การส่องสว่าง(Luminous Flux)ไม่น้อยกว่า 2,100ลูเมน โดยดูจากผลการทดสอบ LM79
- หลอดไฟแอลอีดีมีประสิทธิภาพการส่องสว่าง (Efficacy) ไม่น้อยกว่า 140ลูเมนต่อวัตต์
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่ามุมกระจายแสงของหลอดต้องไม่น้อยกว่า 140 องศาโดยดูจากผลการทดสอบLM79
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่าอุณหภูมิสี (Correlated Color Temperature)Nominal CCT ที่ 6,500เควินตามมาตรฐาน ANSI C78.377 โดยดูผลจากผลการทดสอบ LM79
- หลอดไฟแอลอีดีมีค่าความถูกต้องของสี (Color Rendering Index : CRI)ไม่น้อยกว่า 80 โดยดูจากผลการทดสอบ LM79
- หลอดไฟแอลอีดีได้รับการรับรองมาตรฐานบริภัณฑ์ส่องสว่างและบริภัณฑ์ที่คล้ายกัน: ขีดจำกัดสัญญาณรบกวนวิทยุ (มอก.1955-2551)
- หลอดไฟแอลอีดีใช้เม็ด LED (LED Chip) จากบริษัทผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ ได้แก่ Nichia หรือ CREEหรือ LumiLEDsหรือ LG หรือ Osramหรือเทียบเท่า หรือดีกว่า
- หลอดไฟมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 50,000 ชั่วโมง โดยสามารถยังคงค่าฟลักซ์การส่องสว่างได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 (L70) ของค่าความสว่างเบื้องต้น
- ผ่านการทดสอบและได้ใบรับรองตามมาตรฐานสากล IEC62471 Photo biological Safety of Lamp Syatems (Eye Safety) ประเภทกลุ่ม ความเสี่ยง (Risk Group) ระดับ 1 หรือต่ำกว่า หรือเทียบเท่า
- หลอดไฟแอลอีดีต้องผ่านมาตรฐานการทดสอบ EMC โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน IEC61000-3-2 IEC61000-3-3 และ IEC61547 หรือเทียบเท่า
- หลอดไฟแอลอีดีผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยตาม IEC 62776
- หลอดไฟแอลอีดีผ่านการทดสอบทางด้านประสิทธิภาพ IES LM79
- ชุดขับหลอดแอลอีดี (LED Driver ) ติดตั้งอยู่ภายในหลอด และมีอุปกรณ์ป้องกันแรงดันกระชาก (Surge Protection) ได้ไม่น้อยกว่า 1 กิโลโวลต์ (Line-Neutral)
- ชุดหลอด LED ต้องสามารถติดตั้งเข้ากับโคมไฟFluorescent เดิม (ซึ่งใช้บัลลาสต์แกนเหล็ก) ได้โดยไม่ต้องมีการแก้ไขวงจรไฟฟ้าภายในโคม การใช้อแดปเตอร์เสริมเพื่อต่อแทนสตาร์ทเตอร์ถือว่ายอมรับได้
- หลอดไฟแอลอีดีสามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิแวดล้อม (Ambient Temperature) อยู่ระหว่าง -20 ถึง 35 องศาเซลเซียส
- โคมไฟถนนชนิด LED street light ไม่เกิน 28 วัตต์ สำหรับใช้ทดแทนโคมไฟถนนหลอดฟลูออเรสเซนต์T8 ขนาด 36 วัตต์ มีคุณสมบัติดังนี้
- หลอดไฟแอลอีดีใช้เม็ด LED (LED Chip) จากบริษัทผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ ได้แก่ Nichia หรือ CREE หรือ LumiLEDsหรือ LG หรือ Osramหรือเทียบเท่า หรือดีกว่า
- LED ที่ใช้ต้องมีผลการทดสอบการคงค่าความสว่างตามมาตรฐาน IES LM80 (LM80 Test report) ที่กระแสขับไม่น้อยกว่าพิกัดของ Driver ที่ใช้โดย LED นั้นต้องสามารถคงความสว่างได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ70 (L70) ที่อายุ 50,000 ชั่วโมง (เมื่อคำนวณอายุตามมาตรฐาน IES TM21)
- อุปกรณ์ขับกระแส (Driver) ของชุดโคม LED ต้องเหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ 180-220โวลต์ ความถี่ 50เฮิรตซ์
- อุปกรณ์ขับกระแส (Driver) ต้องมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 50,000 ชั่วโมง (ที่อุณหภูมิ Tc ที่ระบุ)
- อุปกรณ์ขับกระแส (Driver) มีวงจร/อุปกรณ์ป้องกันแรงดันไฟฟ้ากระชาก (Surge Protection)
- อุปกรณ์ขับกระแส (Driver) จะต้องผ่านมาตรฐาน IEC61347-2-13 หรือเทียบเท่า
- อุปกรณ์ขับกระแส (Driver) จะต้องผ่านมาตรฐาน IEC62384 หรือเทียบเท่า
- ตัวโคมทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูปด้วยความดันสูง (High Pressure Die-Cast) สามารถทนการกัดกร่อนมีความแข็งแรงทนต่อการติดตั้งภายนอกอาคาร
- เลนส์ควบคุมแสงทำจากวัสดุที่ทน UV หรือวัสดุอื่นที่เทียบเท่า
- ต้องมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 50,000 ชั่วโมง โดยสามารถยังคงความสว่างได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70(L70) ของค่าความสว่างเริ่มต้น ที่อุณหภูมิแวดล้อม 35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่ส่วนประกอบต่างๆภายในโคม เช่น LED หรือ LED Module และตัวขับกระแสไฟฟ้า (Driver) เมื่อเปิดใช้งานที่อุณหภูมิแวดล้อมของตัวโคมไฟน้อยกว่า 35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่ส่วนประกอบต่างๆต้องไม่เกินพิกัดของอุปกรณ์นั้นๆ
- ตัวโคมมีพื้นผิวเพียงพอสำหรับการระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมต่อการใช้งานในอุณหภูมิแวดล้อมในช่วง -20 ถึง 45 องศาเซลเซียส โดยไม่ใช้การระบายความร้อนเสริมอื่นใดนอกเหนือจากครีบระบายความร้อนบนตัวโคม การระบายความร้อนของตัวโคมต้องเป็นแบบ Passive Cooling การระบายความร้อนแบบ Active Coolingเช่นการใช้พัดลมไม่สามารถยอมรับได้
- - ต้องมีค่าตัวประกอบกำลัง(Power Factor)ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดไม่น้อยกว่า 0.9
- ต้องมีกำลังไฟฟ้าที่ใช้รวมของโคมไฟทั้งชุดไม่เกิน 28 วัตต์
- ต้องมีปริมาณแสงรวมไม่น้อยกว่า 3,300 ลูเมน
- ต้องมีค่าดัชนีความถูกต้องของสี(Color Rendering Index : CRI) ไม่น้อยกว่า 70
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องมีอุณหภูมิสี (Correlated Color Temperature)Nominal CCT5,700เควิน โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนเป็นตามมาตรฐาน ANSI C78.377
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐานIEC 60598-2-3 หรือเทียบเท่า และโคมไฟฟลัดไลท์ชนิด LED ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC 60598-2-5 หรือเทียบเท่า
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องผ่านการทดสอบ Static Load Test ตามมาตรฐานIEC 60598-2-3 ข้อ3.6.3 หรือเทียบเท่า
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องผ่านการทดสอบ Resistance to Corrosion ตามมาตรฐาน IEC 60598-1ข้อ 4.15 หรือเทียบเท่า
- ต้องผ่านการทดสอบ Vibration Test (ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ)
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องผ่านการทดสอบการทนการกัดกร่อนของไอเกลือ(Salt spray test)เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 200 ชั่วโมง
- ต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IEC 62471 ที่ประเภทกลุ่มระดับความเสี่ยง 1 หรือต่ำกว่าหรือเทียบเท่า
- ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน มอก.1955-2551
- ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC 61547 หรือเทียบเท่า
- ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC 61000-3-2 หรือเทียบเท่า
- ต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IEC 61000-3-3 หรือเทียบเท่า
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องมีอุปกรณ์ป้องกันแรงดันไฟฟ้ากระชาก(Surge Protection)โดยต้องทนแรงดันไฟฟ้ากระชากได้ไม่น้อยกว่า 10 กิโลโวลต์(Line-Neutral)
- โคมไฟถนนชนิด LED ต้องเหมาะสำหรับการติดตั้งแบบ side-entry บนเสาไฟทั่วไปที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของปลายเสา 60 มิลลิเมตร
- ต้องมีระดับการป้องกันฝุ่น-น้ำไม่น้อยกว่า IP65 ทั้งดวงโคม โดยห้ามใช้วัสดุกาวในการป้องกันฝุ่น-น้ำ
เอกสารประกวดราคาซื้อด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
เลขที่…………………..
จัดซื้อระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 1 งาน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding)
ตามประกาศมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ลงวันที่ ………………………………………….
-----------------------------------------
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มีความประสงค์จะประกวดราคาซื้อด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จัดซื้อระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ ของสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 1 งาน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding)
พัสดุที่จะซื้อนี้ต้องเป็นของแท้ ของใหม่ ไม่เคยใช้งานมาก่อน ไม่เป็นของเก่าเก็บ อยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้ทันทีและมีคุณลักษณะเฉพาะตรงตามที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาซื้อด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ฉบับนี้ โดยมีข้อแนะนำและข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
- 1. เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
- รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
- แบบใบเสนอราคาที่กำหนดไว้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
- แบบสัญญาซื้อขาย
- แบบหนังสือค้ำประกัน (2) หลักประกันสัญญา (1) ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน 1.6 แบบบัญชีเอกสารที่กำหนดไว้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (2) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 2.1 มีความสามารถตามกฎหมาย 2.3 ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ
- 2.4 ไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ระหว่างถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐไว้ชั่วคราว เนื่องจากเป็นผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามระเบียบ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนดตามที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศ ของกรมบัญชีกลาง
- 2.2 ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- 2. คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ
- (1) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1
- (2) การขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
- 1.5 บทนิยาม
- (1) หลักประกันการเสนอราคา
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
2.5 ไม่เป็นบุคคลซึ่งถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานและได้แจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนิติบุคคลที่ผู้ทิ้งงานเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจในการดำเนินงานในกิจการของนิติบุคคลนั้นด้วย
2.6 มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
2.7 เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลผู้มีอาชีพขายพัสดุที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
2.8 ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่นที่เข้ายื่นข้อเสนอให้แก่ มหาวิทยาลัย ณ วันประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เป็นผู้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรมในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้
2.9 ไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาล ของผู้ยื่นข้อเสนอได้มีคำสั่งให้สละเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นว่านั้น
2.10 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลาง
2.11 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องลงทะเบียนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Government Procurement: e - GP) ของกรมบัญชีกลาง ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
2.12 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชี รายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
2.13 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญาต้องรับและจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าไม่เกินสามหมื่นบาทคู่สัญญาอาจจ่ายเป็นเงินสดก็ได้ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
2.14 ผู้ยื่นเสนอราคาเสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลและมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคา ในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,500,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ที่มหาวิทยาลัยเชื่อถือ
2.15 ผู้ยื่นเสนอราคาต้องมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบ ซึ่งเป็นผลงานที่แล้วเสร็จจากหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ในวงเงิน 4,500,000 บาท (สี่ล้านห้าแสนบาทถ้วน) และเป็นผลงานที่แล้วเสร็จ ไม่เกิน 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นเอกสารเสนอราคา โดยแนบสำเนาหนังสือรับรองผลงานจากหน่วยงานมาพร้อมกับเอกสารประกวดราคา
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- 3. หลักฐานการยื่นข้อเสนอ
ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยแยกเป็น 2 ส่วน คือ
3.1 ส่วนที่ 1 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคล
(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรอง การจดทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(ข) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน นิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม (ถ้ามี) และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(2) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นหุ้นส่วน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้เป็นหุ้นส่วนที่มิได้ถือสัญชาติไทย พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(3) ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า และเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (1) หรือ (2) ของผู้ร่วมค้า แล้วแต่กรณี
(4) สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
(5) บัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบในข้อ 1.6 (1) โดยไม่ต้องแนบในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
ทั้งนี้ เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอดำเนินการแนบไฟล์เอกสารตามบัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ครบถ้วน ถูกต้องแล้ว ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์จะสร้างบัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ตามแบบ ในข้อ 1.6 (1) ให้โดยผู้ยื่นข้อเสนอไม่ต้องแนบบัญชีเอกสารส่วนที่ 1 ดังกล่าวในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
3.2 ส่วนที่ 2 อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทนให้แนบหนังสือ มอบอำนาจซึ่งติดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย โดยมีหลักฐานแสดงตัวตนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ทั้งนี้หากผู้รับมอบอำนาจเป็นบุคคลธรรมดาต้องเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายแล้วเท่านั้น
(2) แคตตาล็อกและ/หรือแบบรูปรายการละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ตามข้อ 4.4
(3) หลักประกันการเสนอราคา ตามข้อ 5
(4) บัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ตามแบบในข้อ 1.6 (2) โดยไม่ต้องแนบในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอดำเนินการแนบไฟล์เอกสารตามบัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ครบถ้วน ถูกต้องแล้ว ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์จะสร้างบัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ตามแบบในข้อ 1.6 (2) ให้โดยผู้ยื่นข้อเสนอไม่ต้องแนบบัญชีเอกสารส่วนที่ 2 ดังกล่าวในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
- 4. การเสนอราคา
4.1 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กำหนดไว้ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอกข้อความ ให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมทั้งหลักฐานแสดงตัวตนและทำการยืนยันตัวตนของผู้ยื่นข้อเสนอโดยไม่ต้องแนบ ใบเสนอราคาในรูปแบบ PDF File (Portable Document Format)
4.2 ในการเสนอราคาให้เสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาได้เพียงครั้งเดียวและราคาเดียว โดยเสนอราคารวม และหรือราคาต่อหน่วย และหรือต่อรายการ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคา ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ราคารวมที่เสนอจะต้องตรงกันทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ตรงกัน ให้ถือตัวหนังสือเป็นสำคัญ โดยคิดราคารวมทั้งสิ้นซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากรอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวงไว้แล้ว จนกระทั่งส่งมอบพัสดุให้ ณ มหาวิทยาลัย
ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า 60 วัน ตั้งแต่วันเสนอราคาโดยภายในกำหนดยืนราคา ผู้ยื่นข้อเสนอต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้
4.3 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องเสนอกำหนดเวลาส่งมอบพัสดุไม่เกิน 365 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาซื้อขาย หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากมหาวิทยาลัย ให้ส่งมอบพัสดุ
4.4 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องส่งแคตตาล็อก และหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของ ระบบซอฟต์แวร์ จำนวน 3 โครงการ ไปพร้อมการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบการพิจารณา หลักฐานดังกล่าวนี้ มหาวิทยาลัย จะยึดไว้เป็นเอกสารของทางราชการ
สำหรับแคตตาล็อกที่แนบให้พิจารณา หากเป็นสำเนารูปถ่ายจะต้องรับรองสำเนาถูกต้อง โดยผู้มีอำนาจทำนิติกรรมแทนนิติบุคคล หากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ มีความประสงค์จะขอดูต้นฉบับแคตตาล็อก ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องนำต้นฉบับมาให้คณะกรรมการพิจารณาผล การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ตรวจสอบภายใน 3 วัน
4.5 ก่อนเสนอราคา ผู้ยื่นข้อเสนอควรตรวจดูร่างสัญญา รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ฯลฯ ให้ถี่ถ้วนและเข้าใจเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดเสียก่อนที่จะตกลงยื่นข้อเสนอตามเงื่อนไข ในเอกสารประกวดราคาซื้ออิเล็กทรอนิกส์
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
4.6 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ ….....................................…… ระหว่างเวลา ….....................................……น. ถึง….....................................……น. และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์เป็นเกณฑ์
เมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นข้อเสนอและเสนอราคาแล้ว จะไม่รับเอกสารการยื่นข้อเสนอ และการเสนอราคาใดๆ โดยเด็ดขาด
4.7 ผู้ยื่นข้อเสนอต้องจัดทำเอกสารสำหรับใช้ในการเสนอราคาในรูปแบบไฟล์เอกสารประเภท PDF File (Portable Document Format) โดยผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบความครบถ้วน ถูกต้อง และชัดเจนของเอกสาร PDF File ก่อนที่จะยืนยันการเสนอราคา แล้วจึงส่งข้อมูล (Upload) เพื่อเป็นการเสนอราคาให้แก่มหาวิทยาลัย ผ่านทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์
4.8 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายว่า เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น ตามข้อ 1.5 (1) หรือไม่ หากปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายใดเป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น คณะกรรมการฯ จะตัดรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่มีผลประโยชน์ร่วมกันนั้นออกจากการเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ
หากปรากฏต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ว่า ก่อนหรือ ในขณะที่มีการพิจารณาข้อเสนอ มีผู้ยื่นข้อเสนอรายใดกระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรมตามข้อ 1.5(2) และคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการฯ จะตัดรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้นออกจากการเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ และมหาวิทยาลัย จะพิจารณาลงโทษผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงานเว้นแต่มหาวิทยาลัยจะพิจารณาเห็นว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้นมิใช่เป็นผู้ริเริ่มให้มีการกระทำดังกล่าวและได้ให้ความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของมหาวิทยาลัย
4.9 ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
(1) ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
(2) ราคาที่เสนอจะต้องเป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) รวมค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้ด้วยแล้ว
(3) ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่กระบวนการเสนอราคา ตามวัน เวลา ที่กำหนด
(4) ผู้ยื่นข้อเสนอจะถอนการเสนอราคาที่เสนอแล้วไม่ได้
(5) ผู้ยื่นข้อเสนอต้องศึกษาและทำความเข้าใจในระบบและวิธีการเสนอราคา ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมบัญชีกลางที่แสดงไว้ในเว็บไซต์ www.gprocurement.go.th
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- 5. หลักประกันการเสนอราคา (ใช้สำหรับกรณีที่มีวงเงินงบประมาณการจัดซื้อ เกินกว่า 5,000,000 บาท)
ผู้ยื่นข้อเสนอต้องวางหลักประกันการเสนอราคาพร้อมกับการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ จำนวน 450,000 บาท (สี่แสนห้าหมื่นบาทถ้วน)
5.1 เช็คหรือดราฟท์ที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่าย ซึ่งเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันที่ที่ใช้เช็คหรือดราฟท์นั้นชำระต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ยื่นข้อเสนอ หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 3 วันทำการ
5.2 หนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารภายในประเทศตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
5.3 พันธบัตรรัฐบาลไทย
5.4 หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามรายชื่อบริษัทเงินทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ทราบ โดยอนุโลมให้ใช้ตามตัวอย่าง หนังสือค้ำประกันของธนาคารที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
กรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอนำเช็คหรือดราฟท์ที่ธนาคารสั่งจ่ายหรือพันธบัตรรัฐบาลไทยหรือหนังสือ ค้ำประกันของบริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มาวางเป็นหลักประกันการเสนอราคาจะต้องส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวมาให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบความถูกต้องในวันที่….....................................……ระหว่างเวลา….....................................……น. ถึง….....................................……น.
กรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอยื่นข้อเสนอในรูปแบบของ “กิจการร่วมค้า” ประสงค์จะใช้หนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารในประเทศเป็นหลักประกันการเสนอราคา ให้ระบุชื่อผู้ยื่นข้อเสนอในหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ฯ ดังนี้
(1) กรณีที่กิจการร่วมค้าได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ให้ระบุชื่อกิจการร่วมค้าดังกล่าวเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ
(2) กรณีที่กิจการร่วมค้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ให้ระบุชื่อผู้เข้าร่วมค้า รายที่สัญญาร่วมค้ากำหนดให้เป็นผู้เข้ายื่นข้อเสนอกับหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ยื่นข้อเสนอ
ทั้งนี้ “กิจการร่วมค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่” หมายความว่า กิจการร่วมค้า ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
หลักประกันการเสนอราคาตามข้อนี้ หาวิทยาลัย จะคืนให้ผู้ยื่นข้อเสนอหรือ ผู้ค้ำประกันภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่มหาวิทยาลัย ได้พิจารณาเห็นชอบรายงานผลคัดเลือกผู้ชนะการประกวดราคาเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่ผู้ยื่นข้อเสนอรายที่คัดเลือกไว้ซึ่งเสนอราคาต่ำสุดหรือได้คะแนนรวมสูงสุดไม่เกิน 3 ราย ให้คืนได้ต่อเมื่อได้ทำสัญญาหรือข้อตกลง หรือผู้ยื่นข้อเสนอได้พ้นจากข้อผูกพันแล้ว
การคืนหลักประกันการเสนอราคา ไม่ว่าในกรณีใดๆ จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ย
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- 6. หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณา
6.1 ในการพิจารณาผลการยื่นข้อเสนอประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนี้ มหาวิทยาลัย จะพิจารณาตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์ราคา
6.2 การพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ
(ก) กรณีใช้หลักเกณฑ์ราคาในการพิจารณาผู้ชนะการยื่นข้อเสนอ มหาวิทยาลัยจะพิจารณาจากราคารวม
6.3 หากผู้ยื่นข้อเสนอรายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามข้อ 2 หรือยื่นหลักฐานการยื่นข้อเสนอไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนตามข้อ 3 หรือยื่นข้อเสนอไม่ถูกต้องตามข้อ 4 คณะกรรมการพิจารณาผล การประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะไม่รับพิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น เว้นแต่ ผู้ยื่นข้อเสนอรายใด เสนอเอกสารทางเทคนิคหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะขายไม่ครบถ้วน หรือเสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ในประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญและความแตกต่างนั้นไม่มีผลทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ต่อผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเป็นการผิดพลาดเล็กน้อย คณะกรรมการฯ อาจพิจารณาผ่อนปรนการตัดสิทธิ ผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น
6.4 มหาวิทยาลัยสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอโดยไม่มีการผ่อนผัน ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ไม่ปรากฏชื่อผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้นในบัญชีรายชื่อผู้รับเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ทางระบบจัดซื้อจัดจ้างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีรายชื่อผู้ซื้อเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ทางระบบจัดซื้อจัดจ้างด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ของมหาวิทยาลัย
(2) ไม่กรอกชื่อผู้ยื่นข้อเสนอในการเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างด้วยอิเล็กทรอนิกส์
(3) เสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นสาระสำคัญ หรือมีผลทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแก่ผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น
6.5 ในการตัดสินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือในการทำสัญญา คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือมหาวิทยาลัย มีสิทธิให้ผู้ยื่นข้อเสนอชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้มหาวิทยาลัยมีสิทธิที่จะไม่รับข้อเสนอ ไม่รับราคา หรือไม่ทำสัญญา หากข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง
6.6 มหาวิทยาลัยทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับราคาต่ำสุด หรือราคาหนึ่งราคาใดหรือราคาที่เสนอทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาเลือกซื้อในจำนวน หรือขนาด หรือเฉพาะรายการหนึ่งรายการใดหรืออาจจะยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่พิจารณาจัดซื้อเลยก็ได้ สุดแต่จะพิจารณา
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และให้ถือว่าการตัดสินของมหาวิทยาลัยเป็นเด็ดขาดผู้ยื่นข้อเสนอจะเรียกร้องค่าใช้จ่าย หรือค่าเสียหายใดๆ มิได้ รวมทั้งมหาวิทยาลัยจะพิจารณายกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์และลงโทษ ผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ทิ้งงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกหรือไม่ก็ตาม หากมีเหตุที่เชื่อถือได้ว่าการยื่นข้อเสนอกระทำการโดยไม่สุจริต เช่น การเสนอเอกสารอันเป็นเท็จ หรือใช้ชื่อบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นมาเสนอราคาแทน เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอรายที่เสนอราคาต่ำสุด เสนอราคาต่ำจนคาดหมายได้ว่าไม่อาจดำเนินงานตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ได้ คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือมหาวิทยาลัยจะให้ผู้ยื่นข้อเสนอนั้นชี้แจงและแสดงหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า ผู้ยื่นข้อเสนอสามารถดำเนินการตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ให้เสร็จสมบูรณ์ หากคำชี้แจงไม่เป็นที่รับฟังได้ มหาวิทยาลัยมีสิทธิที่จะไม่รับข้อเสนอหรือไม่รับราคาของผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น ทั้งนี้ ผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใดๆ จากมหาวิทยาลัย
6.7 ก่อนลงนามในสัญญามหาวิทยาลัยอาจประกาศยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หากปรากฏว่ามีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการประกวดราคาหรือที่ได้รับการคัดเลือกมีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการเสนอราคา
- 7. การทำสัญญาซื้อขาย
- ในกรณีที่ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ สามารถส่งมอบสิ่งของได้ครบถ้วนภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันที่ทำข้อตกลงซื้อ จะพิจารณาจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือแทนการทำสัญญาตามแบบสัญญาดังระบุ ในข้อ 1.3 ก็ได้
- 7.2 ในกรณีที่ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถส่งมอบสิ่งของได้ครบถ้วน ภายใน 5 วันทำการ หรือมหาวิทยาลัย เห็นว่าไม่สมควรจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือ ตามข้อ 7.1 ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทำสัญญาซื้อขายตามแบบสัญญาดังระบุในข้อ 1.3 หรือทำข้อตกลงเป็นหนังสือ กับมหาวิทยาลัย ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง และจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเงินเท่ากับร้อยละห้า ของราคาค่าสิ่งของที่ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ให้มหาวิทยาลัย ยึดถือไว้ในขณะทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
- เงินสด
- เช็คหรือดราฟท์ที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่าย ซึ่งเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันที่ที่ใช้เช็ค หรือดราฟท์นั้นชำระต่อเจ้าหน้าที่ในวันทำสัญญา หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 3 วันทำการ
- หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ ตามตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ดังระบุในข้อ 1.4 (2) หรือจะเป็นหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- หนังสือค้ำประกันของบริษัทเงินทุน หรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต ให้ประกอบกิจการเงินทุนเพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจค้ำประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามรายชื่อบริษัทเงินทุนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ทราบ โดยอนุโลมให้ใช้ตามตัวอย่างหนังสือ ค้ำประกันของธนาคารที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ดังระบุในข้อ 1.4 (2)
- พันธบัตรรัฐบาลไทย 8. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน
- หลักประกันนี้จะคืนให้ โดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (ผู้ขาย) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาซื้อขายแล้ว
มหาวิทยาลัยจะจ่ายค่าสิ่งของซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนภาษีอากรอื่นๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงแล้วให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ขาย เมื่อผู้ขายได้ส่งมอบสิ่งของได้ครบถ้วนตามสัญญาซื้อขายหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ และมหาวิทยาลัย ได้ตรวจรับมอบสิ่งของไว้เรียบร้อยแล้ว
- อัตราค่าปรับ
ค่าปรับตามแบบสัญญาซื้อขายแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ หรือข้อตกลง ซื้อขายเป็นหนังสือ ให้คิดในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาค่าสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบต่อวัน
- 10. การรับประกันความชำรุดบกพร่อง
ผู้ชนะการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ทำสัญญาซื้อขายตามแบบดังระบุในข้อ 1.3 หรือทำข้อตกลงซื้อเป็นหนังสือ แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของสิ่งของที่ซื้อขายที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถัดจากวันที่มหาวิทยาลัยได้รับมอบสิ่งของ โดยต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้การได้ดีดังเดิมภายใน 7วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง
- 11. ข้อสงวนสิทธิ์ในการยื่นข้อเสนอและอื่น ๆ
11.1 เงินค่าพัสดุสำหรับการซื้อครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณแผ่นดิน 2561 การลงนามในสัญญาจะกระทำได้ ต่อเมื่อ มหาวิทยาลัยได้รับอนุมัติเงินค่าพัสดุ จากงบประมาณแผ่นดิน 2561 แล้วเท่านั้น
11.2 เมื่อมหาวิทยาลัยได้คัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอรายใดให้เป็นผู้ขาย และได้ตกลงซื้อสิ่งของตามการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ถ้าผู้ขายจะต้องสั่งหรือนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศและของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางที่มีเรือไทยเดินอยู่ และสามารถให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งเป็นผู้ขายจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ดังนี้
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- แจ้งการสั่งหรือนำสิ่งของที่ซื้อขายดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศต่อกรมเจ้าท่า ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้ขายสั่ง หรือซื้อของจากต่างประเทศ เว้นแต่เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้
- จัดการให้สิ่งของที่ซื้อขายดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย จากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ให้บรรทุกสิ่งของนั้นโดยเรืออื่นที่มิใช่เรือไทย ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตเช่นนั้นก่อนบรรทุกของลงเรืออื่น หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่น
- ในกรณีที่ไม่ปฏิบัติตาม (1) หรือ (2) ผู้ขายจะต้องรับผิดตามกฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมการพาณิชยนาวี
- 11.3 ผู้ยื่นข้อเสนอซึ่งมหาวิทยาลัยได้คัดเลือกแล้ว ไม่ไปทำสัญญาหรือข้อตกลงซื้อ เป็นหนังสือภายในเวลาที่กำหนด ดังระบุไว้ในข้อ 7 มหาวิทยาลัยจะริบหลักประกันการยื่นข้อเสนอ หรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกันการยื่นข้อเสนอทันที และอาจพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงาน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
11.4 มหาวิทยาลัย สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไข หรือข้อกำหนดในแบบสัญญาหรือข้อตกลงซื้อเป็นหนังสือ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด (ถ้ามี)
11.5 ในกรณีที่เอกสารแนบท้ายเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์นี้ มีความขัดหรือแย้งกัน ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของมหาวิทยาลัย คำวินิจฉัยดังกล่าวให้ถือเป็นที่สุด และผู้ยื่นข้อเสนอไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
11.6 มหาวิทยาลัยอาจประกาศยกเลิกการจัดซื้อในกรณีต่อไปนี้ได้ โดยที่ผู้ยื่นข้อเสนอ จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากมหาวิทยาลัยไม่ได้
(1) มหาวิทยาลัยไม่ได้รับการจัดสรรเงินที่จะใช้ในการจัดซื้อหรือที่ได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอที่จะทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไป
(2) มีการกระทำที่เข้าลักษณะผู้ยื่นข้อเสนอที่ชนะการจัดซื้อหรือที่ได้รับการคัดเลือก มีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกันกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น หรือเจ้าหน้าที่ในการเสนอราคา หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใดในการเสนอราคา
(3) การทำการจัดซื้อครั้งนี้ต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่มหาวิทยาลัย หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ
(4) กรณีอื่นในทำนองเดียวกับ (1) (2) หรือ (3) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
- 12. การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ
ในระหว่างระยะเวลาการซื้อ ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ขายต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด
- 13. การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ
มหาวิทยาลัยสามารถนำผลการปฏิบัติงานแล้วเสร็จตามสัญญาของผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับ การคัดเลือกให้เป็นผู้ขายเพื่อนำมาประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ หากผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจะถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทำสัญญากับมหาวิทยาลัย ไว้ชั่วคราว
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
1...........……ประธานกรรมการ 2..…..........……...….กรรมการ 3…....……...........…กรรมการ 4……….............…กรรมการ 5……….........……….กรรมการและเลขานุการ
ขอบเขตงานการปรับปรุงระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย
การปรับปรุงระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร (MIS) ระยะที่ 1 ประกอบด้วย 5 ระบบย่อยได้แก่
- ระบบงบประมาณ
- ระบบจัดซื้อ/จัดจ้าง
- ระบบคลังพัสดุ
- ระบบการเงิน
- ระบบบัญชี
ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร
- ระบบงบประมาณ
- ข้อมูลพื้นฐานระบบ
- ระบบบันทึกงบประมาณที่ได้รับอนุมัติ
- ระบบประมาณการงบประมาณ
- การควบคุมงบประมาณ
- การควบคุมวงเงินในการใช้จ่าย
- การควบคุมรายจ่ายงบประมาณ
- การขอโอน/เปลี่ยนแปลง/เพิ่มงบประมาณ/ลดงบประมาณ/ถัวเฉลี่ย
- การกันเงินงบประมาณไว้เบิกเหลื่อมปี
- 18.1 รายงานการขอเงินกันเหลื่อมปี
- รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ
- รายงานสถานะงบประมาณ
- รายงานทะเบียนคุมงบประมาณรายจ่าย
- รายงานเปรียบเทียบระหว่างงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้และรายจ่ายจริง(เบิกจ่าย) จำแนกตามแผนงาน โครงการ รายเดือน
- รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณจำแนกตามแผนงาน ผลผลิตหลัก โครงการ กิจกรรม เปรียบเทียบไตรมาส
- รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณเงินงบประมาณและเงินนอกงบ จำแนกตามแผนงาน ผลผลิตหลัก โครงการ กิจกรรม รายเดือน
- รายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณเงินงบประมาณและเงินนอกงบ จำแนกตามหน่วยงาน รายเดือน
- รายงานเปรียบเทียบงบประมาณระหว่างปี จำแนกตามแผนงาน ผลผลิตหลัก โครงการ กิจกรรม รายเดือน
- รายงานเปรียบเทียบงบประมาณระหว่างปี จำแนกตามหน่วยงาน หมวดรายจ่าย
- รายงานงบประมาณคงเหลือจำแนกตามหน่วยงาน แจกแจงตามหมวดรายจ่าย
- รายงานงบประมาณใช้ไปตามยุทธศาสตร์ รายเดือน
- 2
- รายงานการโอนเปลี่ยนแปลงบประมาณ/ถัวเฉลี่ย/ปรับลด
- รายงานแผน-ผล การใช้จ่ายงบประมาณ จำแนกรายเดือน
- รายงานสถานะใบขอเบิก ซื้อ/จ้าง
- ระบบจัดซื้อ/จัดจ้าง
- ระบบควบคุมมาตรฐานงานจัดซื้อ/จัดจ้าง
- ระบบงานควบคุมงบประมาณจัดซื้อ/จัดจ้าง
- ระบบงานควบคุมรายละเอียดพัสดุ
- ระบบจัดซื้อ/จัดจ้าง แบ่งเป็นขั้นตอนดังนี้
- จัดทำใบขออนุมัติจัดซื้อ/จัดจ้าง
- จัดทำใบสั่งซื้อ/สั่งจ้าง
- จัดทำใบตรวจรับพัสดุ/งานจ้าง
- รายงานจัดซื้อ/จัดจ้าง
- การบริหารหลักประกันซอง/สัญญา และการรับซองเสนอราคา
- ระบบคลังพัสดุ
- ข้อมูลพื้นฐานคลังพัสดุ
- ระบบงานวัสดุ
- การเบิกวัสดุ
- รายงานระบบงานวัสดุ
- ระบบงานทรัพย์สิน (ครุภัณฑ์ อาคาร สิ่งก่อสร้าง และที่ดิน)
- รายงานระบบงานทรัพย์สิน
- ระบบงานคำนวณค่าเสื่อม
- ระบบงานซ่อมบำรุงครุภัณฑ์
- การยืม/คืนครุภัณฑ์ระหว่างหน่วยงานย่อย ในมหาวิทยาลัยฯ
- การโอนครุภัณฑ์ระหว่างหน่วยงานย่อย ในมหาวิทยาลัยฯ
- การรับบริจาคทรัพย์สิน
- การจำหน่ายทรัพย์สิน
- ระบบการเงิน4.2 ระบบการเบิกจ่าย4.4 ระบบเจ้าหนี้
- 4.5 ระบบลูกหนี้
- 4.3 ระบบการผูกพันหนี้
- 4.1 ระบบการเงินรับ-จ่าย
3
- ลูกหนี้การยืมเงิน
- ลูกหนี้ใบสำคัญ
- รายงานลูกหนี้
- 4.6 รายงานการจ่ายเงิน
- รายงานทะเบียนเช็คจ่าย
- แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.53
- แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.3
- แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.3ก
- สามารถส่งออกข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.53 ภ.ง.ด.3) ในรูปแบบ Text File (สถาบันต้องสมัครขอยื่นแบบด้วยสื่อฯ กับสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่ และติดตั้งโปรแกรม Import ข้อมูลของกรมสรรพากร)
- รายงานการจ่ายเงินประจำวัน หรือตามช่วงเวลาที่กำหนด
- รายงานการจ่ายเงินประจำวันส่งงานบัญชี ตามเลขที่เอกสาร
- รายงานการจ่ายเงินประจำวันส่งงานบัญชี ตามรหัสบัญชี
- รายงานการจ่ายเงินแยกตามผู้ทำรายการ
- รายงานการจ่ายเงินแยกตามหน่วยงาน
- ระบบบัญชี
- สามารถกำหนดผังบัญชีและรหัสบัญชี
- สามารถกำหนดสมุดบัญชี
- เชื่อมโยงระบบการเงินรับ เพื่อรับรู้รายการรับ
- เชื่อมโยงข้อมูลลูกหนี้ใบสำคัญ เพื่อบันทึกบัญชีลูกหนี้ใบสำคัญ
- เชื่อมโยงข้อมูลการเงินตั้งหนี้ เพื่อบันทึกบัญชีตั้งหนี้
- เชื่อมโยงระบบการเงินจ่าย เพื่อรับรู้การจ่าย
- เชื่อมโยงข้อมูลวัสดุคงเหลือ เพื่อปรับปรุงบัญชีวัสดุคงเหลือและค่าใช้จ่ายจากการเบิกวัสดุ
- เชื่อมโยงข้อมูลการหักค่าเสื่อม เพื่อบันทึกปรับปรุงบัญชีค่าเสื่อมราคา และค่าเสื่อมราคาสะสม
- เชื่อมโยงข้อมูลรับทรัพย์สิน (รับบริจาค รับเมื่อเริ่มต้นระบบ) เพื่อบันทึกปรับปรุงบัญชีสินทรัพย์
- เชื่อมโยงข้อมูลการโอนทรัพย์สินระหว่างหน่วยงาน เพื่อบันทึกปรับปรุงบัญชีสินทรัพย์และค่าเสื่อมสะสม
- เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบบริการการศึกษาในส่วนการเงินรับนักศึกษา เพื่อรับทราบยอดรวมลูกหนี้นักศึกษา ในลักษณะปรับปรุงบัญชี
- สามารถยกยอดบัญชีได้โดยสรุปยอดรายได้หักรายจ่ายของมหาวิทยาลัยฯ ไปที่บัญชีกำไรขาดทุนสะสม และยกยอดรายการสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน ขึ้นรอบบัญชีใหม่
- 4
- สามารถบันทึกและปรับปรุงรายการบัญชี
- สามารถพิมพ์เอกสารใบสำคัญการลงบัญชี
- สามารถคัดลอกรายการลงบัญชีเดิมไปยังรายการลงบัญชีใหม่
- สามารถย้ายรายการลงบัญชีจากงวดบัญชี หรือสมุดบัญชีเดิมไปยังงวดบัญชี หรือสมุดบัญชีใหม่
- มีหน้าจอค้นหาข้อมูลประวัติการลงบัญชี
- สามารถป้องกันการแก้ไขข้อมูลการลงบัญชีที่ปิดบัญชีแล้ว
- รายงานระบบบัญชี
- รายงานบัญชีแยกประเภท
- รายงานบัญชีแยกประเภท ตามหน่วยงาน
- รายงานรายการลงบัญชี ตามรหัสบัญชี
- รายงานรายการลงบัญชี ตามสมุดบัญชี
- รายงานงบทดลอง
- งบการเงิน2) รายงาน (งบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน)4) หมายเหตุประกอบงบ
- 3) งบกระแสเงินสด (ทางอ้อม)
- 1) รายงาน (งบแสดงฐานะการเงิน)
- รายงานเงินฝากธนาคาร
- รายงานข้อมูลครุภัณฑ์ และค่าเสื่อมราคา ประจำปี
- รายงานข้อมูลอาคาร สิ่งก่อสร้าง และค่าเสื่อมราคา ประจำปี
- รายงานแสดงฐานะการเงิน เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา
- รายงานแสดงผลการดำเนินงาน เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา
- รายงานแสดงผลการดำเนินงาน แบบผลต่างสะสม
- รายงานแสดงผลการดำเนินงาน เปรียบเทียบเดือน
- รายงานงบทดลอง ตามหน่วยงาน
- รายงานแสดงผลการดำเนินงาน ตามหน่วยงาน
- รายงานแสดงผลการดำเนินงาน ตามหน่วยงาน เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา
- รายงานที่ได้จากการเชื่อมโยงระบบ
- รายงานวัสดุคงเหลือ ประจำเดือน
- รายงานหลักค้ำประกันคงค้าง ประจำเดือน
- รายงานเจ้าหนี้ค้างชำระ ประจำเดือน
- รายงานลูกหนี้ค้างชำระ ประจำเดือน
-
- รายงานลูกหนี้ใบสำคัญ ประจำเดือน
-
ระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย
- ระบบบริหารงานวิจัย
-
งานวิจัยในสถาบันการศึกษา เป็นตัวชี้วัดที่มีผลต่อการประเมินคุณภาพของสถาบัน ดังนั้นการจัดการเกี่ยวกับงานวิจัยจึงมีความสำคัญและผลที่ได้ก็จะเป็นข้อมูลสำหรับผลการปฏิบัติงานของอาจารย์และเป็นข้อมูลสนับสนุนการประเมินคุณภาพของสถาบัน
- คุณสมบัติพื้นฐาน
- พัฒนาบนเทคโนโลยี Web Application
- ระบบฐานข้อมูลแบบ Oracle
- ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน
- สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงเมนู และหน่วยงานได้
- สามารถแนบไฟล์ต่างๆในรูปแบบ เช่น Word, Excel, PDF ได้
- สามารถส่งออก (Export) รายงานในรูปแบบ Text File, Excel, PDF ได้
- รายงานเพิ่มเติมไม่เกินได้ 10 รายงาน
- อบรมการใช้งานระบบรวม 2 วัน
- ระบบการประเมินผลข้อเสนอการวิจัย (Pre-audit)
- กำหนดโครงสร้างหน่วยงานได้ 2 ระดับ ได้แก่ หน่วยงานหลัก (คณะ/ศูนย์/สำนัก/สถาบัน) และหน่วยงานย่อย (ภายใต้หน่วยงานหลัก)
- บันทึกทุนวิจัย ได้แก่ ชื่อทุน หน่วยงาน(ที่ให้ทุน) ลักษณะทุน(ภายใน,ภายนอก), แหล่งเงิน(แผ่นดิน, รายได้, อื่นๆ), ประเภททุน
- บันทึกประวัตินักวิจัย ได้แก่ ชื่อ-สกุล,รหัสบัตรประชาชน, ตำแหน่งทางวิชาการ,หน่วยงาน, ความชำนาญ, ที่อยู่
- บันทึกและแก้ไขรายละเอียดการยื่นข้อเสนอโครงการเดี่ยว / ชุดโครงการ (มีโครงการย่อย) /โครงการย่อย ทั้งโครงการต่อเนื่อง และโครงการใหม่ สามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- ชื่อโครงการวิจัยทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- ประเภทโครงการ ได้แก่ โครงการเดี่ยว / ชุดโครงการ (มีโครงการย่อย) /โครงการ
- ย่อย
- หัวหน้าโครงการวิจัยและผู้ร่วมทำงาน
- หน่วยงานเจ้าของโครงการ
- ระบุสัดส่วน (ร้อยละ) ในการทำงานของผู้วิจัยและผู้ร่วมทำงาน
- ปีงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร
-
1……………..... ประธานกรรมการ 2……………….. กรรมการ 3……………….. กรรมการ 4……………….. กรรมการ 5.……………….. กรรมการและเลขานุการ
2
- ระยะเวลาดำเนินการ (วันที่เริ่มต้น-วันที่สิ้นสุดของโครงการ)
- จำนวนเงินหรืองบประมาณที่ใช้
- สามารถบันทึกข้อมูล ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ, ยุทธศาสตร์การวิจัยแห่งชาติ,
- นโยบายของรัฐบาล, ประเภทการวิจัย, สาขาวิชาการ,ด้านการวิจัย และ OECD
- บันทึกประเภทของผลสำเร็จและผลสำเร็จที่คาดว่าจะได้รับได้
- สามารถแนบไฟล์ข้อเสนอโครงการเข้าสู่ระบบได้
- หัวหน้าหน่วยงาน (เจ้าของโครงการ) ตรวจสอบ/อนุมัติ ข้อเสนอโครงการ
- หน่วยงาน (เจ้าของทุน) สามารถบันทึกผลสรุปรวมการประเมินข้อเสนอโครงการที่ได้จากผู้ทรงคุณวุฒิ สามารถนำผลสรุปการประเมินมาจัดลำดับความสำคัญ และวงเงินที่ได้รับการสนับสนุนของโครงการได้
- มีสถานะติดตามข้อเสนอโครงการ เช่น อยู่ระหว่างการบันทึก, ระหว่างการตรวจสอบของ พิจารณา
- หน่วยงาน (เจ้าของโครงการ), กำลังพิจารณาโดยหน่วยงาน (เจ้าของทุน), แจ้งผลการ
- ระบบการติดตามโครงการที่กำลังดำเนินการวิจัย (Ongoing monitoring)
- นำเข้าข้อมูลจากระบบ Pre-audit หรือบันทึกข้อมูลโดยตรงในระบบ
- สามารถแก้ไขข้อมูลที่ถ่ายโอนมาจากระบบ Pre-audit และบันทึกงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรได้
- บันทึกแผน ผลการดำเนินงานวิจัย
- บันทึกรายงานความก้าวหน้าและรายงานฉบับสมบูรณ์ พร้อมแนบไฟล์ได้
- บันทึกรายละเอียดการเบิกจ่ายงบประมาณได้
- มีสถานะติดตามข้อเสนอโครงการ เช่น อยู่ระหว่างการบันทึก, ระหว่างการตรวจสอบของ
- หน่วยงาน (เจ้าของโครงการ), ระหว่าดำเนินการ, โครงการเสร็จสิ้น
- ระบบการประเมินผลหลังสิ้นสุดการวิจัย (Post audit)
- อ้างอิงข้อมูลโครงการจากระบบ Ongoing monitoring หรือบันทึกข้อมูลโดยตรงในระบบ
- บันทึกข้อมูลโครงการวิจัย โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- ชื่อโครงการวิจัย
- บันทึกหัวหน้า, ผู้ร่วมโครงการ และสัดส่วนของการทำวิจัย
- หน่วยงาน (เจ้าของโครงการ)
- ประเภทของการวิจัย เช่น งานวิจัย/สร้างสรรค์
- ปีงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร
- ระยะเวลาดำเนินการ
- จำนวนเงินหรืองบประมาณที่ใช้
-
1……………..... ประธานกรรมการ 2……………….. กรรมการ 3……………….. กรรมการ 4……………….. กรรมการ 5.……………….. กรรมการและเลขานุการ
3
- บันทึกข้อมูลการตีพิมพ์/เผยแพร่ บทความวิจัย โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ชื่อวารสารที่ตีพิมพ์, ปีที่, ฉบับที่, วันที่, เลขหน้าของวารสารวิชาการ, เลข Impact Factor, ระดับวารสาร(ระดับชาติ,นานาชาติ) , ฐานข้อมูล
- การเผยแพร่ในการประชุมวิชาการ โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ชื่อการประชุมวิชาการ, วันที่, สถานที่จัดการประชุม, ประเทศที่จัดการประชุม, ระดับการประชุม(ระดับชาติ/นานาชาติ)
- บันทึกการได้รับรางวัลจากผลงานวิจัย โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ประเภทรางวัล, ชื่อรางวัลที่ได้รับ, สาขา/ประเภทที่ได้รับรางวัล, หน่วยงานที่ให้รางวัล, วันที่, ระดับของรางวัล(ระดับชาติ/นานาชาติ)
- บันทึกการได้รับการอ้างอิง โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ชื่อบทความวิจัย, ชื่อวารสารที่ตีพิมพ์, ปีที่, ฉบับที่, วันที่, เลขหน้าของวารสารวิชาการ, เลข Impact Factor, ระดับวารสาร(ระดับชาติ,นานาชาติ) , ฐานข้อมูล
- บันทึกการนำไปใช้ประโยชน์ โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ประเภทการใช้ประโยชน์ (เชิงสาธารณะ, เชิงนโยบาย, เชิงพาณิชย์), ชื่อหน่วยงานที่นำไปใช้ประโยชน์, ลักษณะการใช้ประโยชน์, ปีที่นำไปใช้ประโยชน์
- บันทึกการจดทรัพย์สินทางปัญญา โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้ ประเภททรัพย์สินทางปัญญา (สิทธิบัตร, อนุสิทธิบัตร, ลิขสิทธิ์), สถานภาพ (อยู่ระหว่างยื่นจด, ได้รับการจัดทะเบียนแล้ว), วันที่ ที่ยื่นคำขอจด, ประเทศที่ขอจด, วันที่ที่ได้รับการจดทะเบียน, ประเทศที่รับรองการจดทะเบียน
- บันทึกข้อมูลการตีพิมพ์/เผยแพร่ บทความวิจัย โดยสามารถระบุข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- สามารถออกรายงานได้ ดังนี้
- รายงานงานวิจัยและการเผยแพร่รายบุคคล
- รายงานงานวิจัยและการเผยแพร่ตามหน่วยงาน
- รายงานสรุปจำนวนงานวิจัยและการเผยแพร่ของสถาบัน
- รายงานจำนวนงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนแยกตามหน่วยงาน
- รายงานสรุปงบประมาณที่ได้รับจัดสรรตามหน่วยงาน
- ส่วนเพิ่มเติมอื่นๆ
- บันทึกประวัติผลงานของอาจารย์ย้อนหลังก่อนเข้าทำงานที่มหาวิทยาลัย(ชื่องานวิจัย,ปี,แหล่งทุน,งบประมาณ,ผลงานตีพิมพ์,ปี,ชื่อวารสาร)
- กำหนดการจ่ายเงินงวดสุดท้าย เมื่อมีการตีพิมพ์ได้
- บันทึกเงินรางวัลที่ได้รับได้
- แจ้งเตือนผ่านemail กรณีบันทึกผลการประเมินจากผู้ทรงวุฒิ,การเบิกจ่ายเงิน
- งานวิจัยสามารถบันทึกบทคัดย่อ,file(pdf) สำหรับการเผยแพร่
- สามารถเปิดให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาค้นหางานวิจัยได้ ชื่อเรื่อง,บทคัดย่อ,file สำหรับเผยแพร่
-
1……………..... ประธานกรรมการ 2……………….. กรรมการ 3……………….. กรรมการ 4……………….. กรรมการ 5.……………….. กรรมการและเลขานุการ
ระบบบริหารงานบุคลากรและเงินเดือน
- ข้อมูลพื้นฐานบุคลากร
- ประเภทของบุคลากร เช่น ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานราชการ เป็นต้น
- ประเภทตำแหน่งสายงาน เช่น รหัส ชื่อตำแหน่ง กลุ่มงาน(วิชาการ/สนับสนุน) ชื่อย่อ เป็นต้น
- อัตรากำลัง เช่น เลขที่ตำแหน่ง ชื่อตำแหน่ง ระดับเงินเดือนขั้นต้น ตำแหน่งสายงาน ประเภทบุคลากร หน่วยงานที่สังกัด หน่วยงานถือจ่าย เป็นต้น
- ตำแหน่งทางวิชาการ/ชำนาญการ เช่น รหัส ชื่อตำแหน่ง ระดับ เงินประจำตำแหน่ง ประเภทตำแหน่ง เป็นต้น
- ตำแหน่งบริหาร เช่น รหัส ชื่อตำแหน่ง ชื่อย่อ ประเภทของตำแหน่ง ประเภทวาระ (มีวาระ/ไม่มีวาระ) หน่วยงานที่บริหาร เงินประจำตำแหน่ง เป็นต้น
- รายชื่อ ตำบล อำเภอ จังหวัด
- บัญชีอัตราเงินเดือน ได้แก่ ระดับตำแหน่ง ขั้น อัตราเงินเดือนที่ได้รับ
- รายชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- รายชื่อคำนำหน้านาม
- ข้อมูลอ้างอิงประวัติการศึกษา เช่น ชื่อวุฒิการศึกษา สาขาวิชา สถาบันการศึกษา ประเทศ เป็นต้น
- ทะเบียนประวัติบุคลากร
- รหัสประจำตัวบุคลากร โดยระบบสร้างให้อัตโนมัติตามรูปแบบที่กำหนด เพื่อใช้อ้างอิงในระบบ
- คำนำหน้านาม
- คำนำหน้านามตามที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชน
- คำนำหน้านามที่แสดงตำแหน่งวิชาการ เช่น อ. ผศ. รศ. ศ. เป็นต้น
- เพศของบุคลากร (ชาย/หญิง)
- ชื่อ-สกุลภาษาไทย ชื่อ-สกุลภาษาอังกฤษ
- รหัสประจำตัวประชาชน
- วัน-เดือน-ปีเกิด จังหวัดที่เกิด
- รหัสหนังสือเดินทาง (สำหรับบุคลากรชาวต่างประเทศ)
- สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หมู่โลหิต น้ำหนัก ส่วนสูง สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร ความสามารถพิเศษ กีฬาที่เล่น งานอดิเรก ความสามารถทางภาษา ความสามารถทางด้านคอมพิวเตอร์
- รายชื่อบุคคลในครอบครัว บุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ที่อยู่
- ที่อยู่ที่ติดต่อได้
- ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- ที่อยู่ตามภูมิลำเนา
-
2
- หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล์ โฮมเพจ
- ประเภทของบุคลากร เช่น ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานราชการ เป็นต้น
- ระดับการศึกษาสูงสุด วุฒิการศึกษา วิชาเอก สถาบันที่ศึกษา ประเทศ กลุ่มวิชาที่จบ (ISCED) กลุ่มวิชาที่สอน(ISCED)
- อัตรากำลังของบุคลากร เช่น เลขที่ตำแหน่ง ชื่อตำแหน่ง ตำแหน่งทางสายงาน หน่วยงานสังกัด หน่วยงานที่ปฏิบัติงาน เป็นต้น
- วันที่บรรจุ วันที่เริ่มงาน วันที่โอนย้ายมา วันที่เกษียณอายุ-ลาออก
- เลขที่สัญญา วันที่ทำสัญญา วันที่หมดสัญญา
- สามารถแสดงผลปีเกษียณของบุคลากร
- บัญชีเงินเดือน ระดับตำแหน่ง อัตราเงินเดือนที่ได้รับ
- ตำแหน่งทางวิชาการ/ชำนาญการ
- ตำแหน่งบริหาร
- ตำแหน่งความชำนาญงาน
- ประวัติการเลื่อนเงินเดือน/ค่าจ้าง
- ประวัติการดำรงตำแหน่ง
- ประวัติการเปลี่ยนสถานะ เช่น ทดลองงาน ปฏิบัติงาน พ้นสภาพ(ลาออก เกษียณ) เป็นต้น
- สามารถสืบค้นข้อมูลบุคลากรที่ลาออก พ้นจากตำแหน่งแล้ว ให้คงทะเบียนอยู่ในระบบ
- งานพัฒนาบุคลากร
- บันทึกข้อมูลประวัติการศึกษา ดังนี้
- สามารถบันทึกข้อมูลประวัติการศึกษาที่สำเร็จการศึกษา ได้แก่ ระดับการศึกษา วุฒิการศึกษา วิชาเอก/สาขา สถานศึกษา ประเทศ วันที่สำเร็จการศึกษา ปีที่สำเร็จการศึกษา ผลการเรียนเฉลี่ย (GPA)
- บันทึกข้อมูลประวัติการลาศึกษา ดังนี้
- ข้อมูลการลาศึกษา
- ประเภทการศึกษาต่อ ได้แก่ การศึกษาต่อภายในประเทศ การศึกษา ต่อต่างประเทศ
- ระดับ/สาขาวิชา/สถานศึกษาที่จะไปศึกษา
- ระยะเวลา (ตั้งแต่วันที่ ถึงวันที่)
- การใช้เวลาราชการ (เต็มเวลา/บางส่วน)
- ทุนที่ใช้ในการศึกษา (กรณีได้รับทุน) ได้แก่
- ข้อมูลการลาศึกษา
- บันทึกข้อมูลประวัติการศึกษา ดังนี้
-
- ชื่อทุน
- ทุนในประเทศ/ทุนต่างประเทศ
3
- ประเภทหน่วยงานผู้ให้ทุน (ทุนรัฐบาล/ทุนเอกชน)
- ประเภททุน ได้แก่ ทุนประเภท 1 (ก) 1 (ข) 1 (ค) หรือทุนประเภท 2
- ลักษณะทุน ได้แก่ ทุนยากจน ทุนเรียนดี ทุนประกวด ทุนศึกษาต่อ ทุนวิจัย
- ระดับทุนการศึกษา ได้แก่ ทุนปริญญาตรี ทุนปริญญาโท ทุนปริญญาเอก ทุนวิจัย ทุนฝึกอบรม
- การฝึกอบรม หรือดูงาน ที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ได้แก่ วันที่จัด ผู้จัด หัวข้อ สถานที่
- ข้อมูลขยายเวลาศึกษาต่อ ได้แก่ ระยะเวลาที่ขอขยาย (ตั้งแต่วันที่ ถึงวันที่) คำสั่งที่ คำสั่งลงวันที่
- ข้อมูลวันที่ขอกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการ
- ปริญญา/ประกาศนียบัตร ที่ได้รับ
- บันทึกข้อมูลการประชุม ฝึกอบรม และสัมมนา ได้แก่ วันที่จัด ผู้จัด หัวข้อ สถานที่ ค่าใช้จ่าย ผู้ร่วมกิจกรรม
- การประเมินผลพิจารณาเลื่อนเงินเดือน เลื่อนค่าจ้าง
- ข้าราชการ (ข้าราชการระบบแท่ง เลื่อนเงินเดือนเป็นอัตราร้อยละ)การเลื่อนขั้นเงินเดือน ปีละ 2 ครั้ง ตามปีงบประมาณ (ครั้งที่ 1 วันที่ 1 เมษายน/ครั้งที่ 2 วันที่ 1 ตุลาคม)
- มีระบบคำนวณวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนร้อยละ 3 ของเงินเดือนข้าราชการอัตราที่มีคนครอง ณ วันที่ 1 มี.ค. และวันที่ 1 ก.ย. โดยวงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนในแต่ละครั้งการประเมิน แยกวงเงินออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ
- กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหาร (กลุ่ม ผอ.กอง)
- กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภททั่วไป
- มีระบบคำนวณวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนร้อยละ 3 ของเงินเดือนข้าราชการอัตราที่มีคนครอง ณ วันที่ 1 มี.ค. และวันที่ 1 ก.ย. โดยวงเงินที่ใช้เลื่อนเงินเดือนในแต่ละครั้งการประเมิน แยกวงเงินออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- ข้าราชการ (ข้าราชการระบบแท่ง เลื่อนเงินเดือนเป็นอัตราร้อยละ)การเลื่อนขั้นเงินเดือน ปีละ 2 ครั้ง ตามปีงบประมาณ (ครั้งที่ 1 วันที่ 1 เมษายน/ครั้งที่ 2 วันที่ 1 ตุลาคม)
- ลูกจ้างประจำ (เลื่อนเงินเดือนเป็นขั้น)
- การเลื่อนขั้นเงินเดือน ปีละ 2 ครั้ง ตามปีงบประมาณ (ครั้งที่ 1 วันที่ 1 เมษายน/ครั้งที่ 2 วันที่ 1 ตุลาคม)
- การเลื่อนขั้นค่าจ้าง ณ วันที่ 1 เมษายน จำกัดเฉพาะโควตา ผู้ที่จะได้รับการเลื่อนขั้นค่าจ้าง 1 ขั้น ไม่เกิน ร้อยละ 15 ของจำนวนลูกจ้างประจำ ที่มีคนครอง ณ วันที่1 มีนาคม (รวมผู้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษร้อยละ 4 ของค่าจ้าง) การคำนวณโควตาผู้ได้รับเลื่อน 1 ขั้น ไม่เกินร้อยละ 15 (คำนวณเป็นจำนวนเต็ม เศษของจำนวนเต็มปัดทิ้ง โดยมหาวิทยาลัยนำไปพิจารณาตามความเหมาะสม)
-
4
- การเลื่อนขั้นค่าจ้าง ณ วันที่ 1 ตุลาคม จำกัดเฉพาะวงเงิน ที่จะใช้เลื่อนขั้นค่าจ้าง ให้เลื่อนได้ในวงเงินไม่เกิน ร้อยละ 6 ของอัตราเงินเดือนรวมของลูกจ้างประจำ ที่มีคนครอง ณ วันที่ 1 กันยายน โดยให้นำวงเงินที่ใช้เลื่อนขั้นค่าจ้างที่ใช้ไปแล้ว ณ วันที่ 1 เมษายน มาหักออกก่อน
- ลูกจ้างประจำที่ได้รับค่าจ้างสูงสุดของอันดับ (ค่าจ้างเต็มขั้น) สามารถบันทึกค่าตอบแทนพิเศษตามผลการปฏิบัติงาน โดย
- กรณีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์สมควรได้รับการเลื่อนขั้นค่าจ้าง 0.5 ขั้น ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ 2
- กรณีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์สมควรได้รับการเลื่อนขั้นค่าจ้าง 1 ขั้น ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ 4
- กรณีผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์สมควรได้รับการเลื่อนขั้นค่าจ้าง 1.5 ขั้น ให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ 6
-
- กรณีขั้นเงินเดือนใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับให้เลื่อนขั้นค่าจ้างตามขั้นที่เหลืออยู่ก่อน แล้วจึงจ่ายที่เหลือเป็นเงินตอบแทน (เต็มขั้น) ในอัตราร้อยละตามผลการปฏิบัติงาน
- พนักงานราชการ (เลื่อนเงินเดือนแบบขั้น และแบบร้อยละ)
- การเลื่อนขั้นค่าตอบแทนประจำปี 1 ครั้ง (1 ตุลาคม) ดังนี้
- กลุ่มงานบริการ และกลุ่มงานเทคนิค (เลื่อนเงินเดือนแบบขั้น) ให้เลื่อนขั้นค่าตอบแทนได้ 1 ขั้น
- กลุ่มงานบริหารทั่วไป (เลื่อนเงินเดือนแบบร้อยละ) ให้เลื่อนขั้นค่าตอบแทน จำนวนร้อยละ 3 – 5 จากค่าตอบแทนที่ได้รับ
- กรณีบุคลากรได้รับการเลื่อนขั้นค่าตอบแทนประจำปีในระดับดีแล้ว และผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับดีเด่นสามารถ ได้รับค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มขึ้น ดังนี้
- กลุ่มงานบริการและกลุ่มงานเทคนิค ได้รับค่าตอบแทนพิเศษร้อยละ 3 – 5
- กลุ่มงานบริหารทั่วไป ได้รับค่าตอบแทนพิเศษร้อยละ 3 – 5
-
- วงเงินเลื่อนขั้นค่าตอบแทนพิเศษกรณีพนักงานราชการมีผลการประเมินอยู่ในระดับดีเด่นจะได้รับค่าตอบแทนพิเศษของฐานค่าตอบแทนก่อนการเลื่อนขั้นค่าตอบแทนในปีนั้น โดยมีโควตาได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนพนักงานราชการ แต่ละกลุ่มงานที่มีตัวอยู่ ณ วันที่ 1 กันยายน
- กรณีที่มีการคำนวณเพื่อปรับอัตราค่าตอบแทน เลื่อนขั้นค่าตอบแทน หรือกำหนดค่าตอบแทนพิเศษ หากคำนวณแล้วมีเศษไม่ถึงสิบบาท ให้ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสิบบาท
-
5
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เก็บทะเบียนประวัติการรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ได้แก่ วันที่ได้รับเครื่องราชฯ เครื่องราชฯที่ได้รับ วันที่ประกาศ รกจ.ฉบับที่ เล่มที่ ตอนที่ วันที่ส่งคืนเครื่องราชฯ
- สามารถประมวลการรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามระเบียบการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้
- บัญชี 15 ลูกจ้างประจำ
- บัญชี 18 ผู้ดำรงตำแหน่งในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่มีลัษณะพิเศษ (พนักงานมหาวิทยาลัย)
- บัญชี 32 พนักงานราชการ
- บัญชี 41 ข้าราชการตามระบบจำแนกประเภทตำแหน่ง
- งานลงเวลา/บันทึกวันลา
- สามารถตั้งค่าวันหยุดประจำปีและวันหยุดประจำสัปดาห์ได้
- บันทึกข้อมูลการลงเวลาปฏิบัติงานในแต่ละวันพร้อมสถานะการลงเวลา เช่น ขาด ลา มาสาย เป็นต้น แบบรายวันและรายคน
- รองรับการนำเข้าข้อมูลจาก Text File ที่ได้จากเครื่องบันทึกเวลาเข้าสู่ระบบ เพื่อประมวลผลเวลาทำงาน โดยตรวจเช็ค วันที่ เวลา สถานะของการบันทึกเวลา (IN เข้างาน/OUT ออกงาน)
- กรณีมีข้อมูลเกิน 2 ครั้งต่อวัน ระบบจะประมวลผลโดยใช้ข้อมูลที่มีสถานะเข้างาน(IN) ครั้งแรกของวันและสถานะออกงาน (OUT) ครั้งสุดท้ายของวัน
- กรณีส่วนงานที่เข้างาน/เลิกงานข้ามคืน ระบบจะประมวลผลโดยใช้ข้อมูล วันที่ เวลา และสถานะของการลงเวลาเป็นหลัก เช่น เมื่อเข้างานผู้ใช้ต้องกดปุ่มเข้างาน IN และเมื่อเลิกงานผู้ใช้ต้องกดปุ่มเลิกงาน OUT ที่ตัวเครื่องบันทึกเวลาทุกครั้งแล้วจึงรูดบัตร/สแกนนิ้วมือ เพื่อบันทึกเวลา ทั้งนี้เครื่องบันทึกเวลาแต่ละรุ่นจะมีการนำตัวอักษรหรือตัวเลขมาแทนค่าสถานะเข้างาน/ออกงาน (IN/OUT)
- สามารถแยกประเภทการลงเวลาเป็นกลุ่มได้
- สามารถระบุเวลาเข้าออก ที่เป็นเวลาเข้าออกปกติ เวลาเข้าออกที่นับเป็นมาสาย และเวลาเข้าออกที่นับเป็นขาดงาน
- สามารถกำหนดค่าวันทำงานปกติของสัปดาห์ ซึ่งอาจจะไม่ใช่วันจันทร์ถึงศุกร์
- สามารถกำหนดรอบการคิดวันลาได้ทั้งแบบทั้งปีและเป็นรอบการประเมิน
- รองรับการนำเข้าข้อมูลจาก Text File ที่ได้จากเครื่องบันทึกเวลาเข้าสู่ระบบ เพื่อประมวลผลเวลาทำงาน โดยตรวจเช็ค วันที่ เวลา สถานะของการบันทึกเวลา (IN เข้างาน/OUT ออกงาน)
-
6
- สามารถกำหนดจำนวนวันที่ลาได้สูงสุดและจำนวนครั้งที่ลาได้สูงสุดของแต่ละประเภทการลา
- สามารถกำหนดจำนวนวันลาสะสมได้ของแต่ละประเภทการลา
- กรณีลาระยะยาว เช่น ลาคลอด สามารถกำหนดการลาแบบนับรวมวันหยุด หรือไม่นับรวมวันหยุดได้
- รายงาน
- รายชื่อหน่วยงาน
- รายงานอัตรากำลังตามหน่วยงาน
- รายงานอัตรากำลังตามตำแหน่ง
- รายชื่อบุคลากรที่เกษียณอายุ
- รายชื่อบุคลากรตามหน่วยงาน
- รายชื่อบุคลากรตามประเภท
- สรุปอัตรากำลังตามตำแหน่งตามหน่วยงาน
- รายงาน กพ. 7/กม. 1
- รายชื่อตำแหน่งบริหาร
- รายชื่อตำแหน่งทางวิชาการ
- รายชื่อตำแหน่งชำนาญการ
- สรุปวันลา สรุปรายเดือน สรุปรายปีงบประมาณ
- สรุปวันมาทำงาน
- บัญชีการปฏิบัติงาน
- บัญชีแสดงการเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการ
- บัญชีแสดงคุณสมบัติของข้าราชการซึ่งเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- บัญชีรายชื่อข้าราชการผู้ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- บัญชีแสดงจำนวนชั้นตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- บัญชีรายชื่อข้าราชการที่สมควรเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- รายงานโทษทางวินัยตามบุคลากร
- ชุดข้อมูลแบบตาราง
- รายชื่อบุคลากร ประเภทบุคลากร ตำแหน่ง สังกัด อัตราเงินเดือน วันบรรจุ สถานภาพการทำงาน ระดับการศึกษา
- ข้อมูลสรุปจำนวนบุคลากร ตามประเภทบุคลากรและสายงาน
-
7
- ระบบรายงานข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ (สกอ.) ด้านบุคลากร
- สามารถบันทึกข้อมูลพื้นฐานตามตารางอ้างอิงของสกอ. เช่น ตารางข้อมูลสถานศึกษา ตารางข้อมูลประเภทบุคลากร ตารางข้อมูลประเภทบุคลากรย่อย ตารางข้อมูลตำแหน่งทางบริหาร ตารางข้อมูลตำแหน่งทางวิชาการ เป็นต้น
- สามารถบันทึกการจับคู่ข้อมูลของสกอ.กับทางสถาบัน
- มีหน้าจอสำหรับตรวจสอบข้อมูลตามโครงสร้างฟิลด์ของสกอ.
- สามารถส่งออกข้อมูลรายบุคคล ในรูปแบบ .CSV (Comma-Separated Value)
- รายงานจำนวนบุคลากรทั้งหมด จำแนกตามคณะ/หน่วยงานที่สังกัด ประเภทบุคลากรและสายงาน (รายงานเผยแพร่ 1)
- รายงานจำนวนบุคลากรสายวิชาการ จำแนกตามตำแหน่งทางวิชาการ และระดับการศึกษา (รายงานเผยแพร่ 2)
- ระบบงานเงินเดือน
- ข้อมูลพื้นฐานเงินเดือน
- หน่วยงานจ่ายเงินเดือน ธนาคาร และสาขาของธนาคาร
- สามารถบันทึกรหัสรายการได้ ซึ่งสามารถระบุรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
- การคำนวณหักลดตามจำนวนวันทำงาน
- การคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย
- การคำนวณหักเงินสะสม เช่น กบข. กสจ. ประกันสังคม เป็นต้น
- การคำนวณเงินตกเบิก
- สามารถบันทึกรหัสรายการหัก
- สามารถกำหนดกลุ่มจ่ายเงินเดือน แยกตามประเภทของบุคลากรได้
- สามารถกำหนดเกณฑ์การลดหย่อนภาษี และอัตราภาษี ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
- สามารถแก้ไขเกณฑ์ค่าลดหย่อนภาษี
- สามารถแก้ไขอัตราการคำนวณภาษีที่เปลี่ยนแปลงได้
- สามารถกำหนดเกณฑ์การหักประกันสังคม ตามเงื่อนไขของสำนักงานประกันสังคม
- สามารถกำหนดวิธีการจ่ายเงินเดือน เช่น เงินสด เช็ค โอนเข้าบัญชีธนาคาร เป็นต้น
- สามารถกำหนดรหัสธนาคาร เลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีธนาคาร เลขที่ประกันสังคมของแต่ละบุคคล
- สามารถบันทึกข้อมูลค่าลดหย่อนภาษีแต่ละบุคคล เพื่อระบบจะใช้คำนวณยอดภาษีในแต่ละเดือน และสามารถปรับเปลี่ยนในระหว่างปีภาษีได้
- สามารถสร้างฐานรายการได้-รายการหักประจำ
-
8
- งานประมวลผลเงินเดือน
- เชื่อมโยงข้อมูลบุคลากร เพื่อใช้ในการจ่ายเงินเดือน
- สามารถจ่ายเงินเดือนเป็นรายงวดเงินเดือน และรองรับการจ่ายเงินเดือนได้มากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือนได้
- เชื่อมโยงฐานรายการได้-รายการหักประจำ เพื่อคำนวณเงินเดือน
- สามารถบันทึกรายการได้-รายการหัก เพิ่มเติมจากการนำเข้าจากฐาน
- สามารถคำนวณเงินตกเบิก โดยระบุอัตราเดิม อัตราใหม่ ช่วงเวลาที่ตกเบิก
- สามารถคำนวณหักเงิน โดยระบุจำนวนวันที่ลาและรอบการจ่ายเงินเดือน
- สามารถนำเข้ารายการหักเป็นชุดได้ตามรูปแบบ Microsoft Excel ลักษณะเป็น 4 คอลัมน์ คือ ลำดับที่ ชื่อ นามสกุล จำนวนเงิน
- สามารถคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย โดยระบบจะคำนวณภาษีในรอบสุดท้ายของเดือน
- จัดทำแบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย เพื่อนำส่งกรมสรรพากร ดังนี้
- สามารถพิมพ์แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.1
- สามารถพิมพ์แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.1ก
- สามารถพิมพ์แบบยื่นรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด.1ก พิเศษ
- สามารถส่งออกข้อมูลภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.1ก ภ.ง.ด.1ก พิเศษ) ในรูปแบบ Text File (สถาบันต้องสมัครขอยื่นแบบด้วยสื่อฯ กับสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในท้องที่ และติดตั้งโปรแกรม Import ข้อมูลของกรมสรรพากร)
- สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
- สามารถคำนวณเงินสะสม สำหรับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
- สามารถคำนวณเงินสะสม สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- สามารถพิมพ์แบบรายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- สามารถคำนวณเงินประกันสังคมของพนักงาน
- สามารถพิมพ์แบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ (สปส. 1-10(1))
- สามารถพิมพ์แบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ (สปส. 1-10(2))
- สามารถส่งออกข้อมูลเงินหักประกันสังคม ในรูปแบบ Text File ตามรูปแบบของสำนักงานประกันสังคม
- สามารถเก็บประวัติวิธีการจ่ายเงินเดือนของบุคลากรในแต่ละเดือนได้
- สามารถพิมพ์รายงานการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร
- สามารถส่งออกข้อมูลรายละเอียดการนำเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารของบุคลากร ในรูปแบบ Text File
-
9
- สามารถพิมพ์เอกสารการจ่ายเงินเดือน (Payroll Slip)
- สามารถป้องกันการแก้ไขข้อมูลการจ่ายเงินเดือนที่ปิดงวดเงินเดือนแล้ว
- รายงานเงินเดือน
- รายงานสรุปเงินเดือน ตามประเภทบุคลากร
- รายงานรายละเอียดเงินเดือน ตามประเภทบุคลากร
- รายงานเงินเดือน จำแนกตามรหัสเงินเดือน
- รายงานเงินเดือนของบุคลากร ประจำปี
- รายงานประวัติสรุปการจ่ายเงินเดือนรายบุคคล
- รายงานบุคลากรรับเข้า-ลาออก ประจำเดือน
- รายงานตรวจสอบยอดเปลี่ยนแปลงของรายการได้-รายการหัก ระหว่างเดือน
- รายงานสรุปการจ่ายเงินด้วยเงินสด
- รายงานสรุปการจ่ายเงินด้วยเช็ค
- ชุดข้อมูลแบบตาราง
- รายละเอียดเงินเดือน ตามประเภทบุคลากร แจกแจงรายการได้ รายการหัก
- รายการเงินเดือนสุทธินำส่งธนาคาร ประกอบด้วย เลขที่บัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี จำนวนเงิน
-
- ระบบแสดงผลออนไลน์ของบุคลากร
- คุณสมบัติทั่วไป
- แสดงข่าวประกาศทั่วไปในเว็บหน้าแรก และข่าวประกาศเฉพาะบุคลากรภายในเมื่อ Login เข้าสู่ระบบ
- ผู้ดูแลระบบและงานการเจ้าหน้าที่สามารถส่งข้อความให้บุคลากรได้
- ผู้ดูแลระบบสามารถประกาศข่าวทั่วไปได้
- ผู้ดูแลระบบสามารถเพิ่ม ลบ แก้ไข ผู้ใช้งาน และกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งาน ที่จะเข้าใช้งานได้ โดย แบ่งกลุ่มผู้ใช้งาน ตามระดับสิทธิ์ ได้แก่ บุคลากรทั่วไป หัวหน้างาน (บุคลากรที่เข้าถึงข้อมูลตามสิทธิ์หน่วยงานที่ได้รับ)
- แสดงข้อมูลระบบบุคลากร
- กลุ่มหัวหน้างาน (กลุ่มบุคลากรที่เข้าถึงข้อมูลตามสิทธิ์หน่วยงานที่ได้รับ)
- แสดงข้อมูลการฝึกอบรม/ดูงาน โดยแยกตามประเภทของบุคลากร ประเภทสายงาน หน่วยงาน
- แสดงข้อมูลการลาศึกษาต่อ โดยแยกตามประเภทของบุคลากร ประเภทสายงาน หน่วยงาน ชนิดของทุนการศึกษา ประเภทการลาศึกษาต่อ
-
10
- สถิติจำนวนบุคลากรแยกหน่วยงาน จำแนกวุฒิการศึกษา
- สถิติจำนวนบุคลากรแยกหน่วยงาน จำแนกตำแหน่งวิชาการ
- กลุ่มบุคลากรทั่วไป สามารถดูประวัติของตนเองผ่านเว็บ ได้ดังนี้
- แสดงข้อมูลประวัติทั่วไป เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ รายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ตำแหน่งปัจจุบัน ตำแหน่งบริหาร ดำรงตำตำแหน่ง (กพ. 7) การเลื่อนขั้น สถานะทำงาน ตำแหน่งบริหาร ตำแหน่งวิชาการ ตำแหน่งวิชาชีพเฉพาะ เป็นต้น
- แสดงข้อมูลเงินเดือน เช่น ข้อมูลเงินเดือนย้อนหลังในรอบปี ข้อมูลเงินเดือนปัจจุบัน พิมพ์สลิปเงินเดือน เป็นต้น
- แสดงข้อมูลประวัติการลา และสิทธิ์การลาที่ได้รับ
- แสดงข้อมูลพัฒนาบุคลากร เช่น ประวัติการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน การลาศึกษาต่อ เป็นต้น
-